5 อันดับ มือถือ Redmi รุ่นไหนดี แห่งปี 2024 ?
โทรศัพท์มือถือ Redmi เป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ผลิตโดย Xiaomi เป็นที่รู้จักในด้านราคาไม่แพงและสเปคที่คุ้มค่า โทรศัพท์ Redmi มีวางจำหน่ายในรุ่นต่างๆ มากมาย โดยแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกันไป ทีมงาน Xiaomi Thailand ได้รวบรวมไว้ให้แล้วกับบทความ 5 อันดับ มือถือ Redmi รุ่นไหนดี สเปคน่าใช้งาน ราคาประหยัด ซึ่งจะมีรุ่นไหนดีบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลย
1. Redmi 9A
Redmi 9A สมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปในราคาสบายกระเป๋า ไม่ถึง 3,000 บาท มาพร้อมสเปกที่ครบครัน เหมาะแก่การใช้งานในชีวิตประจำวัน
จุดเด่นของ Redmi 9A
- ราคาประหยัด: วางจำหน่ายในไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2020 ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,799 บาท
- หน้าจอใหญ่: จอแสดงผล IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี) ขนาด 6.53 นิ้ว ให้ความละเอียดภาพแบบ Full-HD เหมาะแก่การเล่นเกม หรือรับชมวิดีโอ
- ชิปประมวลผล: Mediatek Helio G25 Octa Core ความเร็ว CPU 2.0 GHz
- หน่วยความจำ: RAM 2GB/ROM 32GB รองรับหน่วยความจำ microSD สูงสุด 512 GB
- แบตเตอรี่: 5,000 mAh ใช้งานได้ยาวนาน
- กล้อง: กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอระดับ HD, 30 FPS
- ดีไซน์: สวยงาม ใช้วัสดุอย่างดี
Redmi 9A เป็นมือถือราคาประหยัดที่คุ้มค่าเกินราคา เหมาะแก่การใช้งานทั่วไป มาพร้อมหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่อึด กล้องถ่ายรูปพอใช้ ดีไซน์สวยงาม เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการมือถือไว้ใช้งานพื้นฐาน หรือเป็นมือถือสำรอง
2. Redmi Note 9T 5G
Redmi Note 9T 5G สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นในตลาด ณ ขณะนี้ ด้วยสเปคที่คุ้มค่า ดีไซน์สวยงาม และฟีเจอร์ครบครัน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ 5G โดยไม่ต้องจ่ายเงินมาก
จุดเด่นของ Redmi Note 9T 5G
- รองรับระบบ 5G: สัมผัสความเร็วแรง ดาวน์โหลดและสตรีมมิ่งคอนเทนต์ได้รวดเร็วทันใจ
- ดีไซน์สวยงาม: ฝาหลังมีเท็กซ์เจอร์ไล่เฉดสี สะท้อนแสงสวยงาม จับถนัดมือ
- หน้าจอใหญ่: จอแสดงผล IPS-LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส
- ชิปประมวลผลแรง: MediaTek Dimensity 800U เล่นเกมได้ลื่นไหล ทำงานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง ได้อย่างไม่มีสะดุด
- หน่วยความจำจุใจ: RAM 4GB/6GB ROM 64GB/128GB รองรับ microSD สูงสุด 512GB
- แบตเตอรี่อึด: 5,020 mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน
- กล้องถ่ายรูป 3 เลนส์: กล้องหลัก 48MP กล้อง Macro 2MP กล้อง Depth 2MP ถ่ายภาพสวย เก็บรายละเอียดครบถ้วน
- กล้องหน้า 13MP: เซลฟี่คมชัด ถ่ายวิดีโอคอลได้อย่างมั่นใจ
- ระบบปฏิบัติการ: Android 10.0 ครอบทับด้วย MIUI 12 ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ครบ
- รองรับ 2 ซิมการ์ด: NanoSIM 2 ซิม
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 2.4G + 5G, Bluetooth 5.1, พอร์ต USB Type-C
Redmi Note 9T 5G สมาร์ทโฟนคุ้มค่า ดีไซน์สวย ฟีเจอร์ครบ ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป เล่นเกม ถ่ายรูปเหมาะกับผู้ใช้งานทุกไลฟ์สไตล์
3. Redmi Note 10S
Redmi Note 10S สมาร์ทโฟนที่คุ้มค่า น่าสนใจ ดีไซน์สวยงาม สเปคครบครัน เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเกม ถ่ายภาพ ใช้งานได้ยาวนาน ในราคาที่จับต้องได้
จุดเด่นของ Redmi Note 10S
- หน้าจอ AMOLED แสดงผลสวยงาม
- ชิปประมวลผลแรง เล่นเกมได้ลื่นไหล
- RAM 8 GB / ROM 128 GB เพียงพอต่อการใช้งาน
- แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนาน
- กล้องถ่ายภาพสวย คมชัด
- รองรับ NFC
- ราคาคุ้มค่า
Redmi Note 10S ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปคครบครัน ดีไซน์สวยงาม กล้องถ่ายภาพสวย ในราคาที่คุ้มค่า
4. Redmi Note 10 Pro
Redmi Note 10 Pro เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2021 ถือเป็นมือถือระดับกลางที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานระดับสูง ใช้งานได้อย่างลื่นไหล คุ้มค่าเกินราคา มาพร้อมสเปกเครื่องที่น่าสนใจ
จุดเด่นของ Redmi Note 10 Pro
- หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ ความละเอียดสูง Refresh Rate 120Hz ใช้งานลื่นไหล
- ชิปประมวลผล Snapdragon 732G เล่นเกมได้ลื่นไหล
- แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ทั้งวัน รองรับชาร์จเร็ว
- กล้องหลัง 4 ตัว ถ่ายสวยทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
- โหมด Super Macro ถ่ายภาพระยะใกล้ได้คมชัด
- กันน้ำกันฝุ่น IP53
Redmi Note 10 Pro เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือสเปกแรง กล้องสวย ใช้งานได้ลื่นไหล ในราคาที่ไม่ถึงหมื่นบาท ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป เล่นเกม ถ่ายรูป ได้เป็นอย่างดี
5. Redmi Note 11
Redmi Note 11 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Xiaomi เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา มาพร้อมฟีเจอร์เด่นมากมาย เหมาะกับผู้ใช้งานที่มองหาสมาร์ทโฟนคุ้มค่า ใช้งานลื่นไหล ถ่ายภาพสวย
จุดเด่นของ Redmi Note 11
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ให้ความคมชัดระดับ FHD+ รองรับอัตรา Refresh Rate 90Hz ช่วยให้การใช้งานลื่นไหล แสดงผลสีสันสดใส อ่านเนื้อหาได้ชัดเจนแม้จะอยู่กลางแดด
- ชิปประมวลผล Snapdragon 680 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 6nm ประหยัดพลังงาน ทำงานลื่นไหล รองรับการใช้งานทั่วไป เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ได้อย่างไม่มีสะดุด
- RAM 4GB/6GB เลือกความจุได้ตามต้องการ พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB/128GB รองรับ MicroSD card เพิ่มความจุได้
- กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 50MP + 8MP + 2MP + 2MP ถ่ายภาพได้สวยงาม เก็บทุกรายละเอียด
- กล้องหน้า 13MP ถ่ายเซลฟี่คมชัด สวยใส
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W
- ระบบกันน้ำกันฝุ่น IP53 มั่นใจได้ทุกสถานการณ์
- ระบบจดจำใบหน้า และ สแกนลายนิ้วมือ ปลอดภัย ใช้งานสะดวก
Redmi Note 11 วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite Gray, Star Blue และ Twilight Blue
วิธีเลือกซื้อมือถือ Redmi รุ่นไหนดี พิจารณาจากอะไรบ้าง ?
1. กำหนดงบประมาณ
การเลือกซื้อมือถือ Redmi ให้ตรงกับความต้องการและคุ้มค่ายิ่งขึ้น จำเป็นต้องเริ่มต้นจากการกำหนดงบประมาณที่คุณมี ซึ่งจะช่วยกรองตัวเลือกให้เหลือเฉพาะรุ่นที่เหมาะสมกับคุณ โดย Redmi เองก็มีมือถือหลากหลายรุ่นในหลายราคา ครอบคลุมทั้งรุ่นราคาประหยัด คุ้มค่า ไปจนถึงรุ่นเรือธงสเปกแรง
เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ต่อไปนี้คือตัวอย่างมือถือ Redmi แบ่งตามงบประมาณ
1. งบประมาณ 3,000 – 5,000 บาท
- Redmi 10C : เน้นความคุ้มค่า มาพร้อมหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่อึด เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
- Redmi A2+: ดีไซน์ทันสมัย กล้องดี ถ่าย selfie คมชัด เหมาะกับวัยรุ่น
- Redmi 9T: รองรับ 5G เล่นเกมลื่นไหล ดูวิดีโอความละเอียดสูง
2. งบประมาณ 5,000 – 7,000 บาท
- Redmi Note 11: กล้องถ่ายรูปดี ถ่ายสวยทั้งกลางวันและกลางคืน ดีไซน์สวยงาม
- Redmi Note 12C: สเปกแรง เล่นเกมลื่นไหล ชาร์จเร็ว หน้าจอสวย
- Poco M4 Pro 5G: รองรับ 5G จอ AMOLED 90Hz ดีไซน์บาง น้ำหนักเบา
3. งบประมาณ 7,000 – 10,000 บาท
- Redmi Note 12 Pro: กล้องถ่ายรูปคุณภาพสูง ชิปเซ็ตแรง เล่นเกมได้สบาย
- Redmi Note 11 Pro 5G: รองรับ 5G ชาร์จเร็ว หน้าจอ AMOLED 120Hz
- Poco X4 Pro 5G: ชิปเซ็ตแรง ดีไซน์สปอร์ต หน้าจอ AMOLED 120Hz
4. งบประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป
- Redmi K50 Pro: ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 แรงที่สุด หน้าจอ AMOLED 2K 120Hz
- Redmi K50 Gaming Edition: มือถือเกมมิ่ง สเปกแรง ระบายความร้อนดี ดีไซน์เท่
- Poco F4 GT: ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 ชาร์จเร็ว 120W หน้าจอ AMOLED 120Hz
2. พิจารณาการใช้งาน
การเลือกมือถือ Redmi ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
เล่นเกม
- ชิปประมวลผล : เลือกรุ่นที่มีชิปประมวลผลแรง เช่น Snapdragon 8 Gen 2 หรือ Dimensity 9000 ชิปเหล่านี้จะช่วยให้เล่นเกมได้อย่างราบรื่น โดยไม่เกิดอาการกระตุกหรือ lag
- หน้าจอ : เลือกรุ่นที่มีหน้าจอ Refresh rate สูง เช่น 120Hz หรือ 144Hz หน้าจอเหล่านี้จะทำให้ภาพในเกมลื่นไหล ตอบสนองต่อการสัมผัสได้รวดเร็ว
- RAM : เลือกรุ่นที่มี RAM ขนาดใหญ่ เช่น 8GB หรือ 12GB RAM ขนาดใหญ่จะช่วยให้เล่นเกมที่มีกราฟิกสูงได้อย่างราบรื่น โดยไม่เกิดอาการหน่วง
ถ่ายภาพ
- กล้อง : เลือกรุ่นที่มีกล้องความละเอียดสูง กล้องซูมไกล และฟีเจอร์กล้องครบครัน
- กล้องหลัก : เลือกรุ่นที่มีกล้องหลักความละเอียด 50MP หรือ 108MP กล้องเหล่านี้จะช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัด เก็บทุกรายละเอียด
- กล้องซูม : เลือกรุ่นที่มีกล้องซูม telephoto เลนส์ซูมจะช่วยให้ถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ไกลได้โดยไม่ต้องขยับเข้าใกล้
- กล้อง ultrawide : เลือกรุ่นที่มีกล้อง ultrawide เลนส์ ultrawide จะช่วยให้ถ่ายภาพมุมกว้าง เก็บภาพได้กว้างขึ้น
- ฟีเจอร์กล้อง : เลือกรุ่นที่มีฟีเจอร์กล้องครบครัน เช่น โหมดกลางคืน โหมดถ่ายภาพบุคคล โหมดถ่ายวิดีโอ 4K
ใช้งานทั่วไป
- สเปค : เลือกรุ่นที่มีสเปคปานกลาง เน้นความคุ้มค่า
- ชิปประมวลผล : เลือกรุ่นที่มีชิปประมวลผล Snapdragon 600 series หรือ Dimensity 800 series ชิปเหล่านี้มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป
- RAM : เลือกรุ่นที่มี RAM ขนาด 6GB
- ความจุเก็บข้อมูล : เลือกรุ่นที่มีความจุเก็บข้อมูล 128GB หรือ 256GB
3. พิจารณาจาก CPU
CPU หรือ Central Processing Unit เปรียบเสมือนสมองของสมาร์ทโฟน มีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลและควบคุมการทำงานต่างๆ ของตัวเครื่อง การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่มี CPU ที่แรง จึงส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงาน ความลื่นไหล และความรวดเร็วในการใช้งาน
ปัจจัยที่ต้องพิจารณา
- จำนวนแกนประมวลผล (Core) : CPU สมัยใหม่มีจำนวนแกนประมวลผลตั้งแต่ 4 แกน 6 แกน 8 แกน ขึ้นไป โดยทั่วไปแล้ว จำนวนแกนประมวลผลที่มากขึ้น ช่วยให้ CPU ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความเร็วสัญญาณนาฬิกา (Clock Speed) : วัดเป็นหน่วย GHz (กิกะเฮิรตซ์) บ่งบอกถึงจำนวนรอบการประมวลผลต่อวินาที ความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงขึ้น ช่วยให้ CPU ประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็ว
- สถาปัตยกรรม CPU : สถาปัตยกรรมที่ใหม่กว่า มักมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า ประหยัดพลังงาน และจัดการความร้อนได้ดีกว่า
การเลือก CPU ให้เหมาะกับการใช้งาน
- ใช้งานทั่วไป: เล่นโซเชียล ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมเบา ๆ เลือก CPU 4-6 คอร์ ความเร็ว 1.5-2.0 GHz ก็เพียงพอ
- เล่นเกม: เลือก CPU 6-8 คอร์ ความเร็ว 2.0 GHz ขึ้นไป รองรับกราฟิกสูง
- ใช้งานหนัก: ตัดต่อวิดีโอ ถ่ายภาพ แต่งรูป เลือก CPU 8 คอร์ ความเร็ว 2.5 GHz ขึ้นไป
การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่มี CPU ที่แรง ช่วยให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหล รวดเร็ว ตอบสนองฉับไว เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนัง ใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ อย่างราบรื่น แต่ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย และเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณ
4. ขนาดความจุแบตเตอรี่
สำหรับนักเล่นมือถือทั้งหลาย ความจุแบตเตอรี่ถือเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ มือถือ Redmi ส่วนใหญ่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ใช้งานได้ยาวนาน คุ้มค่าแก่ราคา
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่ามือถือ Redmi ทุกตัวจะมีแบตเตอรี่ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานของคุณ
สิ่งที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม
- รูปแบบการใช้งาน: คุณเล่นเกมหนัก ดูวิดีโอ หรือใช้งานทั่วไป?
- ขนาดหน้าจอ: หน้าจอใหญ่ = กินแบตเตอรี่มากขึ้น
- สเปคเครื่อง: ชิปประมวลผล CPU/GPU กินไฟมากน้อยแค่ไหน?
- เทคโนโลยี: รองรับเทคโนโลยีประหยัดพลังงานหรือไม่?
นอกจากความจุแล้ว การชาร์จแบตก็สำคัญไม่แพ้กัน
- รองรับชาร์จเร็ว: ช่วยให้ชาร์จแบตเต็มได้ไวขึ้น ประหยัดเวลา
- กำลังไฟ: กำลังไฟสูง ชาร์จเร็ว
5. คุณภาพของกล้องถ่ายรูป
ความละเอียดของกล้อง เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้คนให้ความสนใจเมื่อเลือกซื้อมือถือในปัจจุบัน เพราะในยุคดิจิทัลนี้ การถ่ายภาพและวิดีโอด้วยมือถือกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของหลายๆ คน
องค์ประกอบของความชัดของกล้อง
- จำนวนพิกเซล: โดยทั่วไป ความละเอียดจะวัดเป็นจำนวนพิกเซล เช่น 12MP, 48MP, 108MP กล้องที่มีจำนวนพิกเซลสูง จะสามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้มากกว่า
- ขนาดเซ็นเซอร์: เซ็นเซอร์ภาพเปรียบเสมือนฟิล์มในกล้องดิจิทัล เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ จะสามารถรับแสงได้มากกว่า ส่งผลให้ภาพสว่างและคมชัด โดยเฉพาะในสภาวะแสงน้อย
- เลนส์: เลนส์มีหน้าที่โฟกัสแสงเข้าสู่เซ็นเซอร์ เลนส์ที่มีคุณภาพดี จะช่วยให้ภาพคมชัดและมีสีสันที่สดใส
- ซอฟต์แวร์: ซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพมีบทบาทสำคัญในการดึงศักยภาพของกล้องออกมา ซอฟต์แวร์ที่ดี จะช่วยให้ภาพมีรายละเอียดที่คมชัด สีสันที่แม่นยำ และลด noise ในภาพ
ฟังก์ชั่นเพิ่มเติม
- โหมดถ่ายภาพกลางคืน: ช่วยให้ถ่ายภาพได้ชัดเจนในสภาวะแสงน้อย
- ถ่ายภาพใกล้ กลาง ไกล: เลนส์ที่มีระยะโฟกัสหลากหลาย ช่วยให้ถ่ายภาพได้หลากหลายสไตล์
- ฟีลเตอร์: ฟีลเตอร์มีหลายแบบ เช่น ขาวดำ, ซีเปีย, วินเทจ ช่วยให้ตกแต่งภาพให้สวยงามโดยไม่ต้องใช้แอปเพิ่มเติม
6. หน้าจอแสดงผล
จอแสดงผล เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันมีจอแสดงผลหลายประเภท แต่ละประเภทมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป
Refresh Rate
- 60Hz: อัตรารีเฟรชมาตรฐาน เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
- 90Hz: ภาพลื่นไหลขึ้น เหมาะกับการเล่นเกม ดูหนัง
- 120Hz: ลื่นไหลมากขึ้น เหมาะกับการเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำ
- 240Hz: ลื่นไหลสูงสุด เหมาะกับเกมเมอร์มืออาชีพ
สีสัน
- จอ LCD: สีสันสดใส แต่ความแม่นยำของสีอาจไม่ดีเท่าจอ AMOLED
- จอ AMOLED: สีสันสดใส แม่นยำ ดำสนิท เหมาะกับการดูหนัง เล่นเกม
เทคโนโลยีอื่นๆ
- HDR: เพิ่มมิติของภาพให้สมจริง
- Dolby Vision: เทคโนโลยี HDR ที่ให้ภาพสวยงาม
- DC Dimming: ลดอาการแสงหน้าจอกระพริบ ถนอมสายตา
การเลือกจอ
- ใช้งานทั่วไป: 60Hz ก็เพียงพอ
- เล่นเกม: 90Hz ขึ้นไป
- ดูหนัง: จอ AMOLED + HDR
- ถนอมสายตา: เลือกจอที่มี DC Dimming
