เว็บไซต์รวบรวมสินค้า Xiaomi ครบวงจร

5 อันดับลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี น่ามีไว้ใช้ ออกกำลังกายยามว่าง

ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี
ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากเป็นลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีคุณภาพดี มีราคาไม่แพง และมีความสะดวกสบายในการใช้งาน ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี มีหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

5 อันดับลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี แห่งปี 2024 ?

หากท่านใดที่ชื่นชอบในแบรนด์สินค้า Xiaomi นี้แล้ว แต่สนใจจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าสักเครื่องหนึ่ง Xiaomi Thailand ได้รวมไว้ให้ท่านแล้วกับบทความ 5 อันดับลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี น่ามีไว้ใช้ ออกกำลังกายยามว่าง สามารถติดตามไปพร้อมกันได้เลย

1. Xiaomi Kingsmith K12

Xiaomi Kingsmith K12

XIAOMI KINGSMITH K12 เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าอัจฉริยะ 2 in 1 ดีไซน์สวยงาม น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น เดินหรือวิ่งแบบสบาย ๆ ที่บ้านหรือคอนโดมิเนียม ประหยัดพื้นที่ พกพาสะดวก

ข้อดีของ XIAOMI KINGSMITH K12

  • ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ใช้งานง่าย
  • น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ประหยัดพื้นที่
  • รองรับน้ำหนักได้มากถึง 100 กิโลกรัม
  • ระบบลู่วิ่งยืดหยุ่น รองรับแรงกระแทกได้ดี
  • มีระบบ vAuto ความเร็วเครื่องเปลี่ยนตามความเร็วที่วิ่ง
  • ประหยัดพลังงาน เสียงเงียบ

ข้อเสียของ XIAOMI KINGSMITH K12

  • ความเร็วสูงสุดเพียง 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น
  • มอเตอร์มีกำลังน้อย เหมาะสำหรับการเดินหรือวิ่งแบบเบา ๆ

2. Xiaomi Kingsmith R1 PRO Smart Treadmill Foldable 2IN1

Xiaomi Kingsmith R1 PRO Smart Treadmill Foldable 2IN1

Xiaomi Kingsmith R1 PRO Smart Treadmill Foldable 2IN1 เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าที่คุ้มค่ากับการซื้อมาใช้งาน เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด แต่ต้องการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลู่วิ่งรุ่นนี้ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้มาก แถมยังช่วยให้การออกกำลังกายของคุณเป็นไปตามเป้าหมาย ได้สุขภาพที่ดีกว่าเดิม

ข้อดีของ Xiaomi Kingsmith R1 PRO Smart Treadmill Foldable 2IN1

  • ประหยัดพื้นที่มาก
  • กางออกแล้วใช้งานได้ทันที
  • มีระบบหน้าจอ LED แบบสัมผัส
  • ควบคุมได้ทั้งรีโมทและแอปมือถือ
  • ลดแรงกระแทกแบบ EVA
  • ความเร็วสูงสุด 10 กม. / ชม.
  • รองรับน้ำหนักได้ 110 กก.
  • น้ำหนักเครื่อง 33 กก. มีล้อลากเคลื่อนย้ายง่าย
  • มอเตอร์กระจายความร้อนช่วยประหยัดพลังงาน

ข้อเสียของ Xiaomi Kingsmith R1 PRO Smart Treadmill Foldable 2IN1

  • ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 10 กม. / ชม. เหมาะสำหรับผู้ที่เดินหรือวิ่งออกกำลังกายในระดับพื้นฐาน
  • รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 110 กก. ผู้ที่น้ำหนักเกินกว่านี้อาจไม่เหมาะกับการใช้งานลู่วิ่งรุ่นนี้

3. ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi Youpin Walking Pad C1

Xiaomi Youpin Walking Pad C1

ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi Youpin Walking Pad C1 เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าแบบพับเก็บได้ขนาดกะทัดรัด ใช้งานสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด หรือต้องการลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถพับเก็บได้เพียงไม่กี่ขั้นตอน ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอย และสามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้อย่างง่ายดาย

Xiaomi Youpin Walking Pad C1 มีความเร็วสูงสุด 6 กม./ชม. เหมาะสำหรับการเดินหรือวิ่งออกกำลังกายทั่วไป ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ทำจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรงทนทาน รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานสูงสุด 110 กก. ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล LED แสดงข้อมูลต่างๆ ขณะออกกำลังกาย เช่น ความเร็ว ระยะทาง เวลา และแคลอรี่ที่เผาผลาญ

Xiaomi Youpin Walking Pad C1 สามารถเชื่อมต่อกับแอป Mi Home App เพื่อควบคุมการใช้งานและติดตามผลการออกกำลังกายได้อีกด้วย แอป Mi Home App รองรับภาษาไทย ทำให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

Xiaomi Youpin Walking Pad C1 เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ที่ต้องการลู่วิ่งไฟฟ้าแบบพกพา ใช้งานสะดวก พับเก็บได้ ไม่ต้องตั้งทิ้งไว้ตลอดเวลา ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพื้นที่ใช้สอย

ข้อดีของ Xiaomi Youpin Walking Pad C1

  • ขนาดเล็กกะทัดรัด ใช้งานสะดวก
  • พับเก็บได้ ประหยัดพื้นที่ใช้สอย
  • เคลื่อนย้ายสะดวก
  • ความเร็วสูงสุด 6 กม./ชม. เหมาะสำหรับการเดินหรือวิ่งออกกำลังกายทั่วไป
  • ทำจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรงทนทาน
  • รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานสูงสุด 110 กก.
  • หน้าจอแสดงผล LED แสดงข้อมูลต่างๆ ขณะออกกำลังกาย
  • เชื่อมต่อกับแอป Mi Home App เพื่อควบคุมการใช้งานและติดตามผลการออกกำลังกายได้

ข้อเสียของ Xiaomi Youpin Walking Pad C1

  • ความเร็วสูงสุด 6 กม./ชม. อาจไม่เพียงพอสำหรับนักวิ่งที่ต้องการออกกำลังกายแบบเข้มข้น
  • พื้นที่วิ่งค่อนข้างเล็ก อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก

4. Xiaomi Kingsmith Walking Pad R2

Xiaomi Kingsmith Walking Pad R2

Xiaomi Kingsmith Walking Pad R2 เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าพับเก็บได้ 2-in-1 ที่คุ้มค่าและน่าใช้งาน เหมาะสำหรับทั้งการเดินและการวิ่ง ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในบ้านและนอกบ้าน ใช้งานง่าย ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ และรองรับน้ำหนักสูงสุดถึง 110 กก.

ข้อดีของ Xiaomi Kingsmith Walking Pad R2

  • ปรับความเร็วได้ตั้งแต่ 0.5 ถึง 12 กม./ชม. รองรับทั้งการเดินและการวิ่ง
  • หน้าจอ LED ขนาดใหญ่แสดงข้อมูลการเคลื่อนไหวต่างๆ
  • การออกแบบที่ทันสมัยและกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ
  • มอเตอร์ Brushless เสียงเงียบ
  • พับเก็บได้ 180 องศา สะดวกในการจัดเก็บ
  • รองรับน้ำหนักสูงสุด 110 กก.
  • ทำจากโลหะผสมอะลูมิเนียม แข็งแรงทนทาน
  • ควบคุมได้ทั้งรีโมทและแอป
  • สายพานวิ่ง EVA นุ่ม พร้อมรองรับการกระแทก

5. Xiaomi Kingsmith Walking Pad R1 Pro

Xiaomi Kingsmith Walking Pad R1 Pro

Xiaomi Kingsmith Walking Pad R1 Pro เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีอุปกรณ์ออกกำลังกายดี ๆ ไว้ที่บ้านของตนเอง ประหยัดพื้นที่ เคลื่อนย้ายสะดวก ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง

ข้อดีของ Xiaomi Kingsmith Walking Pad R1 Pro มีดังนี้

  • รับน้ำหนักได้มาก เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
  • ปรับได้ 2 โหมดหลัก ทั้งการเดินและการวิ่ง
  • น้ำหนักเบา พับเก็บได้ ประหยัดพื้นที่
  • เคลื่อนย้ายสะดวก
  • หน้าจอแสดงผลชัดเจน
  • วัสดุแข็งแรงทนทาน
  • มอเตอร์เสียงเบา
  • ควบคุมง่ายด้วยรีโมทหรือแอปพลิเคชัน

ข้อเสียของ Xiaomi Kingsmith Walking Pad R1 Pro มีดังนี้

  • ความเร็วสูงสุดไม่มากนัก เหมาะสำหรับการเดินหรือวิ่งระยะสั้น
  • หน้าจอแสดงผลไม่มีข้อมูลละเอียด เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ เป็นต้น

เลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี พิจารณาจากอะไร ?

การเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น งบประมาณ ความต้องการในการใช้งาน พื้นที่ใช้สอย เป็นต้น

1. ขนาดและน้ำหนัก

ขนาดและน้ำหนักของลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi มีให้เลือกหลายขนาดและน้ำหนัก ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและพื้นที่ใช้สอย โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

  1. ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบพับเก็บได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดพื้นที่ใช้สอย โดยสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน ทำให้มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก เช่น รุ่น Kingsmith F1 ขนาด 145 x 80 x 115 ซม. น้ำหนัก 45 กก.
  2. ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบตั้งพื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่วิ่งกว้างขวาง และใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น รุ่น Kingsmith K12 ขนาด 145 x 80 x 125 ซม. น้ำหนัก 33 กก.

สำหรับขนาดสายพานวิ่งของลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi ส่วนใหญ่จะมีขนาดกว้าง 48 ซม. และยาว 120 ซม. ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป โดยหากต้องการพื้นที่วิ่งที่กว้างขึ้น สามารถเลือกรุ่นที่มีขนาดสายพานวิ่งกว้าง 58 ซม. หรือ 68 ซม. ได้

2. พื้นที่ใช้สอย

ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามความสามารถในการพับเก็บได้ ดังนี้

  1. ลู่วิ่งไฟฟ้าพับเก็บได้ (Folding Treadmill) : ลู่วิ่งไฟฟ้าประเภทนี้สามารถพับเก็บได้ ทำให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอยเมื่อไม่ได้ใช้งาน ลู่วิ่งไฟฟ้าพับเก็บได้ของ Xiaomi ส่วนใหญ่จะใช้มอเตอร์กำลังไฟฟ้าแบบ DC ขนาดเล็ก ทำให้มีเสียงรบกวนต่ำและประหยัดพลังงาน
  2. ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบตั้งพื้น (Standing Treadmill) : ลู่วิ่งไฟฟ้าประเภทนี้ไม่สามารถพับเก็บได้ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าลู่วิ่งไฟฟ้าพับเก็บได้ ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบตั้งพื้นของ Xiaomi ส่วนใหญ่จะใช้มอเตอร์กำลังไฟฟ้าแบบ AC ขนาดใหญ่ ทำให้มีกำลังแรงและทนทานมากกว่าลู่วิ่งไฟฟ้าพับเก็บได้

สำหรับพื้นที่ใช้สอยของลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi นั้น จะแตกต่างกันไปตามขนาดและประเภทของลู่วิ่งไฟฟ้า โดยลู่วิ่งไฟฟ้าพับเก็บได้จะมีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าลู่วิ่งไฟฟ้าแบบตั้งพื้น ดังนี้

  • ลู่วิ่งไฟฟ้าพับเก็บได้ : พื้นที่ใช้สอยเมื่อใช้งาน 1.2 x 1.5 เมตร พื้นที่ใช้สอยเมื่อพับเก็บ 0.4 x 0.7 เมตร
  • ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบตั้งพื้น : พื้นที่ใช้สอย 1.5 x 2.0 เมตร

ดังนั้น การเลือกลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi ควรพิจารณาจากพื้นที่ใช้สอยของบ้านหรือห้องที่จะวางลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นหลัก หากบ้านหรือห้องมีขนาดเล็ก ควรเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าพับเก็บได้ที่สามารถประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้มากกว่า

3. มอเตอร์ไฟฟ้า

มอเตอร์เป็นหัวใจสำคัญของลู่วิ่งไฟฟ้า มอเตอร์มีหน้าที่ในการขับเคลื่อนสายพานลู่วิ่งให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า มอเตอร์ที่ดีจะช่วยให้การวิ่งราบรื่นและนุ่มนวล โดยไม่กระตุกหรือสะดุด ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการวิ่งและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi ส่วนใหญ่ใช้มอเตอร์ AC ที่ให้กำลังแรงและเงียบ มอเตอร์ AC ทำงานโดยอาศัยการสั่นของแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนที่สูงกว่ามอเตอร์ DC ทั่วไป อีกทั้งยังมีเสียงรบกวนน้อยกว่า ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับการวิ่งได้อย่างไร้กังวล

มอเตอร์ AC ของลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

  1. มอเตอร์ AC แปรง (Brushed AC Motor) เป็นมอเตอร์ AC รุ่นเก่าที่ยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน มอเตอร์ชนิดนี้มีข้อดีคือราคาถูกและบำรุงรักษาง่าย แต่มีข้อเสียคือมีเสียงรบกวนมากกว่ามอเตอร์ AC แบบไม่มีแปรง
  2. มอเตอร์ AC แบบไม่มีแปรง (Brushless AC Motor) เป็นมอเตอร์ AC รุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยี่ที่ทันสมัยกว่า มอเตอร์ชนิดนี้มีข้อดีคือมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนที่สูงกว่า เงียบกว่า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ามอเตอร์ AC แปรง

ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นต่างๆ ใช้มอเตอร์ AC ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรุ่นและราคา โดยรุ่นที่มีราคาสูงขึ้นจะใช้มอเตอร์ AC แบบไม่มีแปรงที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนที่สูงกว่า

การเลือกมอเตอร์ลู่วิ่งไฟฟ้า ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • กำลังมอเตอร์ กำลังมอเตอร์เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนสายพานลู่วิ่ง โดยทั่วไปแล้ว กำลังมอเตอร์ควรอยู่ที่ 2 แรงม้าขึ้นไป สำหรับผู้ที่วิ่งออกกำลังกายในระดับปานกลาง และควรอยู่ที่ 3 แรงม้าขึ้นไป สำหรับผู้ที่วิ่งออกกำลังกายในระดับหนัก
  • ประเภทของมอเตอร์ มอเตอร์ AC แบบไม่มีแปรงมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนที่สูงกว่า เงียบกว่า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ามอเตอร์ AC แปรง
  • เสียงรบกวน มอเตอร์ที่เงียบจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับการวิ่งได้อย่างไร้กังวล
  • ราคา มอเตอร์ AC แบบไม่มีแปรงมีราคาสูงกว่ามอเตอร์ AC แปรง

4. ความเร็ว

ความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถปรับได้ตามความต้องการ โดยปกติแล้ว ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi ส่วนใหญ่สามารถปรับความเร็วได้ตั้งแต่ 0.5 ถึง 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วที่เหมาะสมในการวิ่งหรือเดินบนลู่วิ่งไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับระดับความฟิตและเป้าหมายการออกกำลังกายของแต่ละบุคคล

สำหรับบุคคลทั่วไปที่เริ่มต้นออกกำลังกาย แนะนำให้เริ่มต้นที่ความเร็วต่ำก่อน เช่น 6-7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นตามระดับความฟิตที่เพิ่มขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักหรือเผาผลาญแคลอรี แนะนำให้วิ่งที่ความเร็วปานกลาง เช่น 8-9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกวิ่งมาราธอน แนะนำให้วิ่งที่ความเร็วสูง เช่น 10-12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นอกจากนี้ ความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้ายังสามารถปรับได้แบบอัตโนมัติตามโปรแกรมการออกกำลังกายที่กำหนดไว้อีกด้วย ลู่วิ่งไฟฟ้าบางรุ่นจะมีโปรแกรมการออกกำลังกายให้เลือกหลายแบบ เช่น โปรแกรมลดน้ำหนัก โปรแกรมเพิ่มความฟิต โปรแกรมฝึกวิ่งมาราธอน เป็นต้น โดยโปรแกรมเหล่านี้จะกำหนดความเร็วและระยะเวลาการออกกำลังกายให้โดยอัตโนมัติ

ดังนั้น การเลือกความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้าให้เหมาะสมจึงมีความสำคัญ เพราะจะช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

5. ความชัน

ความชันของลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่งได้ โดยการปรับระดับความชันจะทำให้การวิ่งมีแรงต้านมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้น และการเผาผลาญแคลอรีที่มากขึ้น

การปรับความชันของลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถช่วยเป้าหมายการฝึกซ้อมได้หลายประเภท ตัวอย่างเช่น การปรับความชันไปที่ 1-2% จะช่วยเพิ่มความเข้มข้นของการฝึกซ้อมสำหรับนักวิ่งทั่วไปหรือนักกีฬาที่ต้องการพัฒนาความแข็งแรงและความอดทน การปรับความชันไปที่ 3-4% ขึ้นไปจะเพิ่มระดับความยากสำหรับนักวิ่งที่ต้องการพัฒนาความเร็วและความแข็งแกร่ง

ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี บางรุ่นสามารถปรับความชันได้ ตัวอย่างเช่น Mi Treadmill M1 และ Mi Treadmill M2 ทั้งสองรุ่นสามารถปรับความชันได้ตั้งแต่ 0-12%

เมื่อปรับความชันของลู่วิ่งไฟฟ้า ควรเริ่มต้นด้วยระดับความชันที่ต่ำและค่อย ๆ เพิ่มระดับความชันขึ้นตามระดับความฟิตและความแข็งแรงของคุณ

6. ความปลอดภัย

ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ลู่วิ่งไฟฟ้าก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้เช่นกัน เช่น ล้มขณะวิ่งหรือเดิน ลู่วิ่งวิ่งเร็วเกินไป เป็นต้น ดังนั้นจึงควรมีระบบความปลอดภัยที่ครบครันเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

ระบบความปลอดภัยที่สำคัญของลู่วิ่งไฟฟ้า ได้แก่

  • ระบบกันตก (Safety Key) เป็นระบบที่ช่วยให้ลู่วิ่งหยุดทำงานทันทีหากผู้ใช้หลุดออกจากลู่วิ่ง โดยระบบนี้จะมีสายคล้องคอหรือสายคล้องมือที่เชื่อมต่อกับลู่วิ่ง เมื่อผู้ใช้หลุดออกจากลู่วิ่ง สายคล้องจะหลุดออกจากลู่วิ่ง ทำให้ลู่วิ่งหยุดทำงานทันที
  • ระบบเบรกอัตโนมัติ (Emergency Stop) เป็นระบบที่ช่วยให้ลู่วิ่งหยุดทำงานทันทีหากผู้ใช้กดปุ่มฉุกเฉิน โดยปุ่มฉุกเฉินจะอยู่บริเวณหน้าจอคอนโซลของลู่วิ่ง
  • ระบบหยุดฉุกเฉิน (Power Failure Stop) เป็นระบบที่ช่วยให้ลู่วิ่งหยุดทำงานทันทีหากไฟฟ้าดับ โดยระบบนี้จะใช้แบตเตอรี่สำรองมาจ่ายไฟให้กับระบบเบรกของลู่วิ่ง
  • ระบบกันลื่น (Anti-Slip) เป็นระบบที่ช่วยให้สายพานของลู่วิ่งไม่ลื่น โดยระบบนี้จะใช้วัสดุพิเศษที่มีคุณสมบัติกันลื่นมาเคลือบบนสายพาน
  • ระบบกันกระแทก (Shock Absorption) เป็นระบบที่ช่วยลดแรงกระแทกขณะวิ่งหรือเดิน โดยระบบนี้จะใช้โช้คอัพหรือระบบกันสะเทือนมาติดตั้งที่สายพานของลู่วิ่ง

นอกจากระบบความปลอดภัยข้างต้นแล้ว ผู้ใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้งานอย่างเคร่งครัด เช่น สวมใส่รองเท้าที่เหมาะสม เริ่มต้นด้วยความเร็วที่ช้าและค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้น จับราวจับทุกครั้งเมื่อขึ้นและลงจากลู่วิ่ง และอย่าทิ้งเด็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ตามลำพังใกล้ลู่วิ่งไฟฟ้า

หากเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี ควรเลือกซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้และมีการรับประกันสินค้า เพื่อให้มั่นใจว่าลู่วิ่งไฟฟ้ามีความปลอดภัยและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. ราคาของลู่วิ่งไฟฟ้า

ราคาของลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi แตกต่างกันไปตามรุ่นและคุณสมบัติ โดยรุ่นที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 7,990 บาท และรุ่นที่มีราคาสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 29,990 บาท โดยรุ่นที่มีราคาเริ่มต้นจะเป็นรุ่นขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พับเก็บได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรือคอนโด ส่วนรุ่นที่มีราคาสูงจะเป็นรุ่นขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก เหมาะสำหรับการใช้งานในฟิตเนสหรือสถานที่ออกกำลังกาย

ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi มีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ เนื่องจาก Xiaomi เป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนที่มีจุดเด่นด้านการผลิตสินค้าคุณภาพดีในราคาที่ย่อมเยา นอกจากนี้ ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi ยังได้รับการออกแบบมาให้มีความทันสมัยและใช้งานง่ายอีกด้วย

สำหรับท่านที่กำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดี ราคาไม่แพง คุณภาพดี ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

สรุป

ลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi ถือว่าคุ้มค่ากับราคา เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกายหรือผู้ที่มีพื้นที่จำกัดในบ้านหรือคอนโดมิเนียม อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ออกกำลังกายหนักหรือต้องการความสมจริงในการวิ่ง ควรเลือกลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi รุ่นไหนดีที่มีความเร็วสูงสุดและรองรับน้ำหนักสูงสุดมากกว่า 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 120 กิโลกรัม ตามลำดับ สำหรับราคาของลู่วิ่งไฟฟ้า Xiaomi ในประเทศไทย มีตั้งแต่ 14,990 บาท ถึง 29,990 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและคุณสมบัติของลู่วิ่งไฟฟ้า

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง