5 อันดับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น xiaomi รุ่นไหนดี แห่งปี 2023 ?
1. Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2 Pro
![Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2 Pro](https://xiaomith.com/wp-content/uploads/2023/12/Xioami-Mi-Robot-Vacuum-Mop-2-Pro.png)
Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2 Pro Robot Vacuum Cleaner เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่ากับราคา โดยจุดเด่นที่น่าสนใจมีดังนี้
- ระบบเลเซอร์ LDS ช่วยให้ตรวจจับพื้นที่ภายในบ้านได้อย่างแม่นยำ และวางแผนการทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แรงดูดสูงสุด 3,000 Pa ดูดฝุ่นได้สะอาดหมดจด
- ระบบการสั่น 10,000 ครั้ง/นาที ถูพื้นได้ล้ำลึก
- แบตเตอรี่ความจุ 5200 mAh ใช้งานได้นาน
- กลับแท่นชาร์จอัตโนมัติเมื่อทำงานเสร็จ
- ตั้งค่าการทำงานได้ตามต้องการผ่านแอปพลิเคชัน
- เซนเซอร์กันตก 6 ตัว ป้องกันตกจากที่สูง
- ข้ามสิ่งกีดขวางสูง 20 มม.ได้
Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2 Pro Robot Vacuum Cleaner เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้พร้อมกัน โดยสามารถทำความสะอาดได้สะอาดหมดจดและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้งานง่ายและสะดวกอีกด้วย
2. Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2
![Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2](https://xiaomith.com/wp-content/uploads/2023/12/Xiaomi-Mi-Robot-Vacuum-Mop-2.png)
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2 Robot Vacuum Cleaner เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบครันและราคาที่จับต้องได้ เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ 150 ตรม.
คุณสมบัติเด่นของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้ ได้แก่
- แรงดูดสูงถึง 2700Pa สามารถดูดฝุ่นและขนสัตว์ได้หมดจด
- ถังน้ำอัจฉริยะความจุ 250 มล. ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยให้ถูพื้นได้ทั่วถึง
- แบตเตอรี่ความจุ 3200 mAh สามารถทำงานได้สูงสุด 110 นาที
- สั่งการผ่านแอป Mi Home/Xiaomi Home ได้อย่างสะดวก
- ข้ามสิ่งกีดขวางที่มีความสูงไม่เกิน 20 มม.
- แปรงทำความสะอาดทั้ง 6 แฉก ทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุม
- สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในตัว
Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2 Robot Vacuum Cleaner เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่มาก ต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและราคาไม่แพง
3. Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop Essential
![Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop Essential](https://xiaomith.com/wp-content/uploads/2023/12/xiaomi-mi-robot-vacuum-mop-essential.jpeg.png)
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop Essential เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาประหยัดที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย ดังนี้
- สามารถใช้งานได้ 2in1 ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้น ช่วยให้ทำความสะอาดบ้านได้อย่างครบวงจร
- มีดีไซน์ที่มินิมอล เรียบง่าย เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่ง
- สามารถสั่งงานควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนด้วยแอป Mi Home ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวก
- สามารถกรองฝุ่นได้ขนาดเล็กถึง 3 ไมครอน ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองกระจายกลับคืนสู่อากาศ
- มีพลังแรงดูด 2,200 Pa ช่วยให้ทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีแบตเตอรี่ความจุ 2,500 mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 90 นาที
- สามารถควบคุมการจ่ายน้ำได้ 3 ระดับ ช่วยให้ปรับระดับความเปียกตามพื้นผิวที่ต้องการ
- สามารถสั่งการผ่านระบบเสียง ช่วยให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop Essential เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานภายในบ้านทั่วไป โดยรุ่นนี้สามารถทำความสะอาดพื้นผิวได้หลากหลาย ทั้งพื้นปูน พื้นกระเบื้อง พื้นไม้ รวมถึงเส้นผมและขนสัตว์ขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายและใช้งานง่าย ช่วยให้ประหยัดเวลาและแรงในการทำความสะอาดบ้านได้อีกด้วย
4. Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2C
![Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2C](https://xiaomith.com/wp-content/uploads/2023/12/Xiaomi-Mi-Robot-Vacuum-Mop-2C.png)
Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2C เป็นรุ่นที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาไม่แพง คุณสมบัติครบครัน ใช้งานง่าย ดังนี้
- ราคาไม่แพง เพียง 6,990 บาทเท่านั้น
- รูปทรงดีไซน์ทันสมัย สีขาวเรียบหรู
- ใช้งานง่าย สามารถสั่งการผ่านสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน Mi home
- ระบบเซ็นเซอร์กันการตก ป้องกันไม่ให้หุ่นยนต์ตกจากบันได
- สามารถปีนพื้นต่างระดับได้สูง 2 ซม.
- แรงดูด 2,700 Pa ขจัดคราบฝุ่นได้ดี
- สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในตัวเดียว
- ระบบ Mapping จดจำเส้นทางการทำความสะอาด
- กลับมาชาร์จเองเมื่อแบตเตอรี่เหลือ 15%
- สามารถตั้งค่าน้ำและแรงดูดได้
Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2C เป็นรุ่นที่คุ้มค่ากับราคา เหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีคุณสมบัติครบครัน ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ดี
5. Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2 Ultra
![Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2 Ultra](https://xiaomith.com/wp-content/uploads/2023/12/xiaomi-mi-robot-vacuum-mop-2-ultra.jpeg.png)
Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2 Ultra Robot Vacuum Cleaner เป็นรุ่นที่มีคุณสมบัติโดดเด่นและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดขณะนี้ ด้วยคุณสมบัติดังนี้
- การใช้งานแบบ 2 in 1 คือสามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในเครื่องเดียว สะดวกและประหยัดเวลา
- เทคโนโลยีนำทางระบบเลเซอร์ LDS ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถจดจำพื้นที่และวางแผนทำความสะอาดได้อย่างแม่นยำ
- ระบบหลบสิ่งกีดขวางแบบ 3 มิติ ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างปลอดภัย
- สามารถข้ามสิ่งกีดขวางที่มีความสูงไม่เกิน 20 มม.
- แบตเตอรี่ความจุ 5200mAh ใช้งานได้ยาวนานกว่า 240 ตร.ม.
นอกจากนี้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Mi Home เพื่อควบคุมการใช้งานและตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างสะดวกอีกด้วย
Xiaomi Mi Robot Vacuum Mop 2 Ultra Robot Vacuum Cleaner เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับใครที่กำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานสะดวก และตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ
วิธีเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น xiaomi รุ่นไหนดี พิจารณาจากอะไร ?
1. ขนาดพื้นที่
สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาขนาดพื้นที่ของคุณเมื่อเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi โดยทั่วไปแล้ว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi มีกำลังดูดเพียงพอที่จะทำความสะอาดพื้นที่ขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากคุณมีบ้านขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่มีเฟอร์นิเจอร์จำนวนมาก คุณอาจต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีกำลังดูดสูงขึ้น
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi แต่ละรุ่นมีความสามารถในการทำความสะอาดพื้นที่ที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Mi Robot Vacuum Cleaner สามารถทำความสะอาดพื้นที่ได้สูงสุด 250 ตารางเมตร หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Roborock S7 สามารถทำความสะอาดพื้นที่ได้สูงสุด 300 ตารางเมตร และหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Viomi V5 Pro สามารถทำความสะอาดพื้นที่ได้สูงสุด 200 ตารางเมตร
หากพื้นที่ของคุณมีขนาดมากกว่าที่ระบุไว้สำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใดรุ่นหนึ่ง คุณอาจต้องทำความสะอาดพื้นที่นั้นด้วยตนเองเป็นครั้งคราว หรือคุณสามารถเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นที่มีกำลังดูดสูงขึ้น
ต่อไปนี้เป็นแนวทางคร่าวๆ สำหรับการเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi ตามขนาดพื้นที่ของคุณ:
- พื้นที่ขนาดเล็ก (ไม่เกิน 100 ตารางเมตร): เลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีกำลังดูด 1,000 Pa หรือสูงกว่า
- พื้นที่ปานกลาง (100-250 ตารางเมตร): เลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีกำลังดูด 1,500 Pa หรือสูงกว่า
- พื้นที่ขนาดใหญ่ (มากกว่า 250 ตารางเมตร): เลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีกำลังดูด 2,000 Pa หรือสูงกว่า
นอกจากนี้ คุณควรพิจารณาคุณสมบัติอื่นๆ ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi ที่คุณเลือกด้วย เช่น ระบบนำทาง โหมดทำความสะอาด และเวลาทำงาน เพื่อให้แน่ใจว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นเหมาะสมกับความต้องการของคุณ
2. คุณสมบัติเพิ่มเติม
คุณสมบัติที่ต้องการสำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ควรมี มีดังนี้
- สามารถถูพื้นได้ เนื่องจากบ้านมีพื้นไม้และพรมผสมกัน จึงต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่สามารถถูพื้นได้ เพื่อทำความสะอาดทั้งฝุ่นและรอยเปื้อนบนพื้น
- มีระบบนำทางขั้นสูง เพื่อให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถทำความสะอาดบ้านได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ โดยระบบนำทางขั้นสูงที่ฉันต้องการ เช่น ระบบสร้างแผนที่ 3 มิติ หรือระบบป้องกันการชนสิ่งกีดขวาง
- สามารถทำงานตามกำหนดเวลาได้ เพื่อให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถทำงานได้อัตโนมัติตามที่เรากำหนดไว้ เช่น ทำงานทุกวันตอนเช้าหรือตอนกลางคืน
- มีเสียงรบกวนต่ำ เนื่องจากบ้านมีขนาดเล็ก จึงต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีเสียงรบกวนต่ำ เพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อน
- มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน เพื่อให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
3. งบประมาณ
การกำหนดงบประมาณก่อนเริ่มมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของเราได้ง่ายขึ้น โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi มีราคาตั้งแต่หลักพันบาทถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งาน ดังนี้
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่นราคาประหยัด มีราคาตั้งแต่ 3,000-5,000 บาท เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่มาก ต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ใช้งานพื้นฐาน เช่น ดูดฝุ่น ถูพื้น มีคุณสมบัติพื้นฐาน เช่น เซ็นเซอร์กันชน เซ็นเซอร์กันตก ทำงานแบบสุ่ม
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่นระดับกลาง มีราคาตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ปานกลาง ต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ดูดฝุ่น ถูพื้น เช็ดพื้น มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น เช่น เซ็นเซอร์ LiDAR ทำงานแบบแผนที่
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่นระดับสูง มีราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวาง ต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เช่น ดูดฝุ่น ถูพื้น เช็ดพื้น ฆ่าเชื้อโรค มีคุณสมบัติที่ทันสมัย เช่น เซ็นเซอร์ LiDAR ทำงานแบบแผนที่ เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันเพื่อสั่งงานและควบคุมได้
ดังนั้น ในการกำหนดงบประมาณ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ขนาดพื้นที่บ้าน หากบ้านมีขนาดใหญ่ ต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีกำลังดูดสูง สามารถทำงานได้นาน และมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ดี
- ความต้องการในการใช้งาน หากต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่สามารถทำงานได้หลากหลายฟังก์ชัน เช่น ดูดฝุ่น ถูพื้น เช็ดพื้น ฆ่าเชื้อโรค จำเป็นต้องเลือกรุ่นที่มีราคาสูงขึ้น
- งบประมาณ กำหนดงบประมาณที่เหมาะสมกับความต้องการและกำลังซื้อของเรา
การกำหนดงบประมาณจะช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแต่ละรุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของเราได้อย่างคุ้มค่า
4. กำลังดูด
กำลังดูดคือปริมาณฝุ่นและเศษอาหารที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถดูดได้ หน่วยวัดกำลังดูดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นคือ Pascal (Pa) โดยปกติแล้ว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะมีกำลังดูดตั้งแต่ 1,000 Pa ไปจนถึง 7,000 Pa หรือมากกว่านั้น
กำลังดูดที่สูงขึ้นหมายความว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถทำความสะอาดพื้นที่ของคุณได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หมายความว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถดูดฝุ่นและเศษอาหารได้มากกว่าในระยะเวลาเท่ากัน ส่งผลให้พื้นของคุณสะอาดขึ้นเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม กำลังดูดที่สูงขึ้นก็อาจส่งผลเสียเช่นกัน นั่นคือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอาจดูดฝุ่นและเศษอาหารขนาดเล็กๆ ติดเข้าไปในตัวเครื่องได้มากขึ้น ส่งผลให้ต้องทำความสะอาดตัวเครื่องบ่อยขึ้น นอกจากนี้ กำลังดูดที่สูงขึ้นยังอาจทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงานหนักขึ้นและแบตเตอรี่หมดเร็วขึ้นได้
ดังนั้น จึงควรเลือกกำลังดูดให้เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะการใช้งานของคุณ หากคุณมีพื้นบ้านที่มีฝุ่นและเศษอาหารมาก จำเป็นต้องเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีกำลังดูดสูง แต่ถ้าคุณมีพื้นบ้านที่มีฝุ่นและเศษอาหารไม่มากนัก ไม่จำเป็นต้องเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีกำลังดูดสูงมาก
5. ระบบนำทาง
ระบบนำทางหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วไปสามประเภท:
- ระบบนำทางด้วยเลเซอร์ : ระบบนำทางด้วยเลเซอร์เป็นระบบนำทางที่แม่นยำที่สุด โดยใช้เลเซอร์เพื่อสแกนห้องเพื่อสร้างแผนที่ 3 มิติ แผนที่นี้ช่วยให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำความสะอาดทุกพื้นที่ของห้อง
- ระบบนำทางด้วยกล้อง : ระบบนำทางด้วยกล้องใช้กล้องเพื่อจับภาพห้อง กล้องเหล่านี้มักใช้ร่วมกับเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกหรือเซ็นเซอร์อินฟราเรดเพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวาง แผนที่ที่สร้างขึ้นจากระบบนำทางด้วยกล้องอาจไม่แม่นยำเท่าระบบนำทางด้วยเลเซอร์ แต่มักมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบนำทางแบบแรนดอม
- ระบบนำทางแบบแรนดอม : ระบบนำทางแบบแรนดอมเป็นระบบนำทางที่ง่ายที่สุด โดยใช้เซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวาง หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะเคลื่อนที่ไปรอบๆ ห้องอย่างสุ่มจนกว่าจะพบสิ่งกีดขวาง ระบบนำทางแบบแรนดอมอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าระบบนำทางอื่นๆ แต่มักเป็นระบบที่ราคาถูกที่สุด
ระบบนำทางที่คุณเลือกจะขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ หากคุณต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ให้พิจารณาระบบนำทางด้วยเลเซอร์ หากคุณต้องการหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพเพียงพอและราคาไม่แพง ให้พิจารณาระบบนำทางด้วยกล้องหรือระบบนำทางแบบแรนดอม
6. ความจุของกล่องเก็บฝุ่น
ความจุของกล่องเก็บฝุ่นคือปริมาณฝุ่นที่สามารถเก็บไว้ในกล่องเก็บฝุ่นได้ หน่วยที่ใช้วัดความจุของกล่องเก็บฝุ่นคือลิตร กล่องเก็บฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหมายความว่าคุณจะต้องล้างกล่องเก็บฝุ่นน้อยลง
โดยทั่วไปแล้ว กล่องเก็บฝุ่นจะมีขนาดตั้งแต่ 0.3 ลิตรไปจนถึง 5 ลิตร เครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดเล็กหรือมีกำลังดูดน้อยมักจะมีกล่องเก็บฝุ่นขนาดเล็ก ในขณะที่เครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดใหญ่หรือมีกำลังดูดสูงมักจะมีกล่องเก็บฝุ่นขนาดใหญ่
หากคุณมีบ้านหรือห้องขนาดใหญ่ คุณจะต้องใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีกล่องเก็บฝุ่นขนาดใหญ่ เพื่อให้คุณสามารถดูดฝุ่นได้นานขึ้นโดยไม่ต้องล้างกล่องเก็บฝุ่นบ่อยๆ
นอกจากขนาดแล้ว คุณควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ในการเลือกกล่องเก็บฝุ่นด้วย เช่น วัสดุที่ใช้ทำกล่องเก็บฝุ่น การออกแบบของกล่องเก็บฝุ่น และระบบการปิดผนึกของกล่องเก็บฝุ่น
วัสดุที่ใช้ทำกล่องเก็บฝุ่นควรเป็นวัสดุที่แข็งแรงทนทาน ไม่แตกหักง่าย การออกแบบของกล่องเก็บฝุ่นควรทำให้ง่ายต่อการเทฝุ่นทิ้ง และระบบการปิดผนึกของกล่องเก็บฝุ่นควรแน่นหนาเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นรั่วไหลออกมา
7. ระยะเวลาทำงาน
เวลาทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น คือระยะเวลาที่หุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ โดยทั่วไปแล้ว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะมีเวลาทำงานประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการทำความสะอาดพื้นที่ประมาณ 60-70 ตารางเมตร อย่างไรก็ตาม เวลาทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น
- ขนาดและน้ำหนักของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- ประสิทธิภาพในการดูดฝุ่น
- ความจุของแบตเตอรี่
- รูปแบบการทำความสะอาด
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีขนาดใหญ่และหนักกว่า จะใช้พลังงานมากกว่าและทำงานได้นานกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีขนาดเล็กและเบากว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นสูง จะต้องใช้พลังงานมากกว่าและทำงานได้นานกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นต่ำ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ จะทำงานได้นานกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ใช้รูปแบบการทำความสะอาดแบบสุ่มหรือแบบเดินวนซ้ำ จะทำงานได้นานกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ใช้รูปแบบการทำความสะอาดแบบแผนที่
หากต้องการเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีเวลาทำงานเพียงพอสำหรับพื้นที่ของคุณ คุณควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ข้างต้น ตัวอย่างเช่น หากคุณมีบ้านหรือคอนโดขนาดใหญ่ คุณอาจต้องการเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีเวลาทำงานอย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป
8. โหมดทำความสะอาด
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นส่วนใหญ่มีโหมดทำความสะอาดหลายโหมด เพื่อให้คุณสามารถเลือกโหมดที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้ ต่อไปนี้เป็นโหมดทำความสะอาดทั่วไปของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น:
- โหมดอัตโนมัติ หรือ โหมดสุ่ม : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะเคลื่อนที่ไปทั่วพื้นที่โดยไม่มีรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง เหมาะสำหรับการทำความสะอาดทั่วไป
- โหมดขอบ : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะเน้นทำความสะอาดบริเวณขอบห้อง เช่น มุมห้อง ขอบประตู เหมาะสำหรับการทำความสะอาดบริเวณที่เข้าถึงยาก
- โหมดเฉพาะจุด : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะทำความสะอาดบริเวณที่กำหนดไว้ เช่น บริเวณที่มีฝุ่นมากหรือบริเวณที่มีสัตว์เลี้ยง เหมาะสำหรับการทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ
- โหมดทำความสะอาดตามเส้นทาง : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะทำความสะอาดตามเส้นทางที่เฉพาะเจาะจง เช่น เส้นทางรูปตัว S หรือรูปตัว Z เหมาะสำหรับการทำความสะอาดในพื้นที่ที่มีเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งกีดขวาง
- โหมดทำความสะอาดตามพื้นที่ : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะทำความสะอาดพื้นที่ที่กำหนดไว้ เช่น ทำความสะอาดห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น เหมาะสำหรับการทำความสะอาดพื้นที่เฉพาะ
- โหมดทำความสะอาดแบบเงียบ : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะทำงานด้วยเสียงที่เบาลง เหมาะสำหรับการทำความสะอาดในเวลากลางคืนหรือขณะที่มีคนกำลังพักผ่อน
- โหมดทำความสะอาดแบบประหยัดพลังงาน : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะทำงานด้วยพลังงานที่ต่ำลง เหมาะสำหรับการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีขนาดเล็กหรือต้องการความสะอาดน้อย
- โหมดทำความสะอาดแบบเชิงรุก : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะทำงานด้วยพลังดูดที่สูงขึ้น เหมาะสำหรับการทำความสะอาดบริเวณที่มีฝุ่นมากหรือบริเวณที่มีขนสัตว์