5 อันดับไดร์เป่าผม xiaomi รุ่นไหนดี แห่งปี 2023
1. ไดร์เป่าผม Xiaomi Blu-ray
ไดร์เป่าผม Xiaomi Blu-ray เป็นไดร์เป่าผมที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองและผู้ที่เดินทางบ่อย ๆ
สำหรับคุณสมบัติที่โดดเด่นของไดร์เป่าผมรุ่นนี้ ได้แก่
- กำลังไฟ 1600 วัตต์ ช่วยให้ผมแห้งเร็ว ประหยัดเวลา
- ปล่อยประจุลบ 80 ล้าน ช่วยลดไฟฟ้าสถิตย์ ช่วยให้ผมไม่ชี้ฟู
- มีฟังก์ชัน ร้อน เย็น อุ่น ปรับอุณหภูมิได้ตามความต้องการ
- ดีไซน์และสีสันทันสมัย
- มีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
ดังนั้น หากท่านกำลังมองหาไดร์เป่าผมที่มีคุณสมบัติครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไดร์เป่าผมXiaomi Blu-ray ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับประโยคที่ว่า “ประหยัดเวลา พร้อมเดินทางได้ตลอด” ถือว่าตรงกับคุณสมบัติของไดร์เป่าผมรุ่นนี้ เนื่องจากมีกำลังไฟสูง ช่วยให้ผมแห้งเร็ว ประหยัดเวลาในการเป่าผม นอกจากนี้ยังมีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย ๆ
2. ไดร์เป่าผม Xiaomi Youpin
ไดร์เป่าผม Xiaomi Youpin เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่และคนที่มีผมแห้ง เพราะมีฟังก์ชั่นครบครัน ใช้งานง่าย และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม
ไดร์เป่าผมXiaomi Youpin มีคุณสมบัติและจุดเด่นดังนี้
- ฟังก์ชั่นครบครัน ปรับระดับความร้อนและความเร็วลมได้ 3 ระดับ มีโหมดลมเย็น ปล่อยประจุลบ
- ดีไซน์ทันสมัย เหมาะกับคนสมัยใหม่
- เทอร์โมสแตติก ควบคุมอุณหภูมิได้คงที่
- ปล่อยประจุลบ เพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม
- ปรับอุณหภูมิเย็นได้เร็ว 0.8 วินาที
จากคุณสมบัติเหล่านี้ ไดร์เป่าผมXiaomi Youpin เหมาะสำหรับมือใหม่และคนที่มีผมแห้ง ดังนี้
- มือใหม่ ไดร์เป่าผมรุ่นนี้ใช้งานง่าย มีฟังก์ชั่นครบครัน ปรับระดับความร้อนและความเร็วลมได้หลายระดับ ช่วยให้ควบคุมการไดร์ผมได้ง่ายขึ้น
- ผมแห้ง ไดร์เป่าผมรุ่นนี้ปล่อยประจุลบ ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม ทำให้ผมไม่แห้งเสีย
นอกจากนี้ ไดร์เป่าผมรุ่นนี้ยังมีจุดเด่นที่ปรับอุณหภูมิเย็นได้เร็ว 0.8 วินาที ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีผมแห้ง เพราะช่วยให้ผมไม่เสียจากการไดร์ผมด้วยความร้อนสูง
3. ไดร์เป่าผม Xiaomi Reepro มินิ
ไดร์เป่าผม Xiaomi Reepro มินิ เป็นไดร์เป่าผมขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 400 กรัม เหมาะกับการพกพาไปท่องเที่ยวหรือเดินทางไกล ไดร์เป่าผมรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีไอออนลบที่ช่วยลดความแห้งกร้านของเส้นผมและลดการเกิดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมเรียบลื่น มีน้ำหนักเบา ไม่ชี้ฟู นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับความร้อนและความเร็วลมได้ 2 ระดับตามความต้องการ
ข้อดีของไดร์เป่าผมXiaomi Reepro มินิ
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- ขนาดเล็กกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่
- เทคโนโลยีไอออนลบ ช่วยลดไฟฟ้าสถิต
- ปรับระดับความร้อนและความเร็วลมได้ 2 ระดับ
ข้อเสียของไดร์เป่าผมXiaomi Reepro มินิ
- กำลังไฟเพียง 1300 วัตต์ อาจทำให้ผมแห้งช้ากว่าไดร์เป่าผมขนาดปกติ
- หัวเป่าลมเป็นแบบมาตรฐาน อาจไม่เหมาะกับการไดร์ผมทรงต่างๆ
4. ไดร์เป่าผม Xiaomi Anion
Xiaomi Anion เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการไดร์เป่าผมที่ช่วยฟื้นฟูเส้นผมให้นุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู และดูสุขภาพดี อีกทั้งยังใช้งานสะดวกและพกพาง่ายอีกด้วย
สำหรับข้อดีและข้อเสียของไดร์เป่าผม Xiaomi Anion มีดังนี้
- ปล่อยประจุลบ ช่วยทำให้เส้นผมนุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู และช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม
- หัวฉีดกระจายลม ช่วยกระจายลมให้ทั่วถึง ทำให้ผมแห้งเร็วและไม่ทำให้ผมพันกัน
- เสียงรบกวนต่ำ ทำให้ใช้งานได้สะดวกโดยไม่รบกวนผู้อื่น
- กำลังไฟแรง ทำให้เป่าผมให้แห้งเร็ว
- ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก
5. ไดร์เป่าผม Mijia H500 1800W
Xiaomi Mijia H500 1800W พบว่าเป็นไดร์เป่าผมที่เหมาะสำหรับมือใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- ปลอดภัย เพราะมีระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ ป้องกันไม่ให้เส้นผมและหนังศีรษะร้อนเกินไป
- ใช้งานง่าย มีปุ่มปรับอุณหภูมิและความเร็วลมที่เข้าใจง่าย
- แข็งแรงทนทาน ตัวเครื่องทำจากวัสดุคุณภาพดี
นอกจากนี้ ไดร์เป่าผมรุ่นนี้ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่นๆ ดังนี้
- ใช้เทคโนโลยีไอออนน้ำ ช่วยให้ผมเงางาม ไม่แห้งเสีย
- มีหัวเป่าลมแม่เหล็กหมุนได้ 360 องศา สะดวกในการจัดแต่งทรงผม
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
โดยสรุปแล้ว Xiaomi Mijia H500 1800W เป็นไดร์เป่าผมที่คุ้มค่าสำหรับมือใหม่ที่ต้องการไดร์เป่าผมที่ปลอดภัย ใช้งานง่าย และมีคุณสมบัติครบครัน
วิธีเลือกไดร์เป่าผม Xiaomi รุ่นไหนดี พิจารณาจากอะไรบ้าง ?
1. กำลังไฟของไดร์เป่าผม
กำลังไฟของไดร์เป่าผมมีผลต่อความเร็วในการเป่าผม โดยไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูงจะเป่าผมได้เร็วกว่า เนื่องจากสามารถส่งลมร้อนที่มีปริมาณมากกว่าออกไปได้ ส่งผลให้ผมแห้งเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูงอาจทำให้ผมแห้งเสียได้มากกว่าไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟต่ำ เนื่องจากความร้อนที่สูงอาจทำให้เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้นและโปรตีน
ดังนั้น การเลือกกำลังไฟของไดร์เป่าผมจึงควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการและการใช้งานของตนเอง สภาพเส้นผม และงบประมาณ
สำหรับการใช้งานทั่วไป กำลังไฟที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 1,600-1,800 วัตต์ ซึ่งจะช่วยให้เป่าผมได้เร็วพอสมควรโดยไม่ทำให้ผมแห้งเสียมากเกินไป หากมีผมเส้นใหญ่ ผมหนา หรือผมหยิก สามารถเลือกไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูงกว่านี้ได้ เนื่องจากจะช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้นและจัดทรงได้ง่ายขึ้น
ส่วนหากมีผมเส้นเล็ก ผมบาง หรือผมแห้งเสีย แนะนำให้เลือกไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟต่ำลงมา เนื่องจากความร้อนที่ต่ำจะช่วยปกป้องเส้นผมไม่ให้แห้งเสียมากเกินไป
2. ฟังก์ชันเสริม
ไดร์เป่าผม ในปัจจุบันมีฟังก์ชันเสริมให้เลือกหลากหลาย ฟังก์ชันเสริมเหล่านี้จะช่วยให้การใช้งานไดร์เป่าผมมีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อน
ฟังก์ชันเสริมที่ควรพิจารณา ได้แก่
- โหมดลมร้อน เป็นโหมดหลักที่ใช้ในการเป่าผมแห้ง โดยสามารถเลือกระดับความร้อนได้ตามความต้องการ
- โหมดลมเย็น ใช้เพื่อล็อกทรงผมหรือทำให้ผมเย็นลงหลังเป่าผมเสร็จ
- โหมดไอออนลบ ช่วยทำให้ผมนุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู และลดไฟฟ้าสถิต
- โหมดป้องกันความร้อนสูงเกินไป ช่วยให้ไดร์เป่าผมหยุดทำงานอัตโนมัติหากอุณหภูมิสูงเกินไป เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันเสริมอื่นๆ ให้เลือก เช่น โหมดปรับความแรงลม โหมดปรับทิศทางลม โหมดเป่าไดร์แบบจัดแต่งทรงผม เป็นต้น
การเลือกฟังก์ชันเสริมนั้น ควรพิจารณาจากความต้องการและลักษณะการใช้งานของตนเองเป็นหลัก เช่น หากต้องการเป่าผมแห้งเร็วๆ อาจเลือกไดร์เป่าผมที่มีโหมดลมร้อนแรงๆ หากต้องการปกป้องผมไม่ให้แห้งเสีย อาจเลือกไดร์เป่าผมที่มีฟังก์ชันไอออนลบหรือโหมดลมเย็น เป็นต้น
3. เสียงไดร์เป่าผม
ไดร์เป่าผมบางรุ่นมีเสียงที่ดังมาก ซึ่งอาจสร้างความรำคาญได้ การเลือกไดร์เป่าผมที่มีเสียงเงียบจะช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกสบายมากขึ้น
ระดับเสียงของไดร์เป่าผมจะวัดเป็นเดซิเบล (dB) โดยระดับเสียงที่ต่ำกว่า 70 dB ถือว่าเบา ระดับเสียงที่อยู่ระหว่าง 70-80 dB ถือว่าปานกลาง และระดับเสียงที่สูงกว่า 80 dB ถือว่าดัง
ไดร์เป่าผมที่มีเสียงเงียบมักมีการออกแบบพิเศษ เช่น การใช้มอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน หรือการใช้วัสดุที่ดูดซับเสียง ไดร์เป่าผมบางรุ่นอาจมีโหมดเสียงเงียบที่ช่วยลดระดับเสียงลงได้
การเลือกไดร์เป่าผมที่มีเสียงเงียบนั้น ควรพิจารณาจากความต้องการและลักษณะการใช้งานของตนเองเป็นหลัก เช่น หากต้องการใช้งานไดร์เป่าผมในห้องที่มีคนอยู่เยอะ อาจเลือกไดร์เป่าผมที่มีเสียงเงียบ หากต้องการเป่าผมแห้งเร็วๆ อาจเลือกไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูง ซึ่งอาจทำให้มีเสียงดังกว่าไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟต่ำ
4. ขนาดและน้ำหนัก
ไดร์เป่าผม มีหลายขนาดและน้ำหนักให้เลือก การเลือกขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสมจะช่วยให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
ขนาดของไดร์เป่าผมจะวัดเป็นความยาวและเส้นผ่านศูนย์กลาง โดยไดร์เป่าผมที่มีขนาดเล็กจะพกพาสะดวกกว่าไดร์เป่าผมที่มีขนาดใหญ่
น้ำหนักของไดร์เป่าผมจะวัดเป็นกรัม โดยไดร์เป่าผมที่มีน้ำหนักเบาจะใช้งานง่ายกว่าไดร์เป่าผมที่มีน้ำหนักมาก
การเลือกขนาดและน้ำหนักของไดร์เป่าผมนั้น ควรพิจารณาจากความต้องการและลักษณะการใช้งานของตนเองเป็นหลัก เช่น หากต้องการใช้งานไดร์เป่าผมบ่อยๆ อาจเลือกไดร์เป่าผมที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา หากต้องการเป่าผมแห้งเร็วๆ อาจเลือกไดร์เป่าผมที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ
5. สามารถพับเก็บได้
ไดร์เป่าผม สามารถพับเก็บได้นั้น เพิ่มความสะดวกสบายและตอบโจทย์การใช้งานในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
- ความมีระเบียบวินัย ไดร์เป่าผมที่พับเก็บได้จะช่วยให้การจัดเก็บอุปกรณ์ภายในบ้านเป็นระเบียบมากขึ้น และไม่เกะกะพื้นที่ใช้สอย เหมาะสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับการจัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
- พกพาสะดวก ไดร์เป่าผมที่พับเก็บได้สามารถพกพาใส่กระเป๋าเดินทางได้สะดวก เหมาะสำหรับคนที่เดินทางไปบ่อย ๆ หรือต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดบ่อย ๆ
- กรณีฉุกเฉิน ไดร์เป่าผมพกพาสามารถพกพาติดตัวไปในกรณีฉุกเฉินได้ เช่น กรณีเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วลืมไดร์เป่าผมที่บ้าน หรือกรณีเกิดไฟฟ้าดับในบ้าน ก็สามารถหยิบไดร์เป่าผมพกพาออกมาใช้งานได้ทันที
6. ควบคุมอุณหภูมิได้
ไดร์เป่าผมที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้นั้นมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
- ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อน ไดร์เป่าผมทั่วไปมักมีอุณหภูมิที่สูง ซึ่งอาจทำให้เส้นผมแห้งเสียและชี้ฟูได้ ไดร์เป่าผมที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ช่วยให้คุณสามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับสภาพเส้นผมของคุณได้ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำร้ายเส้นผม
- ช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้น ไดร์เป่าผมที่มีอุณหภูมิสูงจะช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้น แต่หากใช้อุณหภูมิสูงเกินไป อาจทำให้ผมแห้งเสียได้ ไดร์เป่าผมที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ช่วยให้คุณสามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับสภาพเส้นผมของคุณได้ ช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้นโดยไม่ทำให้ผมแห้งเสีย
- ช่วยให้ผมมีสุขภาพดี ไดร์เป่าผมที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ช่วยให้คุณสามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับสภาพเส้นผมของคุณได้ ช่วยให้ผมมีสุขภาพดี ไม่แห้งเสีย ไม่ชี้ฟู
เทคโนโลยี ThermoProtect และเทคโนโลยี EHD เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยกระจายสมดุลความร้อนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผมของคุณแห้งเร็วและไม่ชี้ฟู ดังนี้
- เทคโนโลยี ThermoProtect เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ไดร์เป่าผมรักษาอุณหภูมิคงที่อยู่ที่ 57 องศาเซลเซียส อุณหภูมินี้ถือว่าเหมาะสมสำหรับการเป่าผม ไม่ร้อนจนเกินไป ทำให้ผมไม่แห้งเสีย
- เทคโนโลยี EHD เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยกระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งเส้นผม ทำให้ผมแห้งเร็วและเรียบสวยไม่ชี้ฟู
หากคุณต้องการไดร์เป่าผมที่จะช่วยให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพดี ไม่แห้งเสีย ไม่ชี้ฟู ไดร์เป่าผมที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้คือตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ เลือกไดร์เป่าผมที่มีเทคโนโลยี ThermoProtect หรือเทคโนโลยี EHD จะช่วยให้คุณไดร์ผมได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อเส้นผม
7. ราคาไดร์เป่าผม
ราคาไดร์เป่าผม Xiaomi มีราคาให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท โดยราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น กำลังไฟ ฟังก์ชันเสริม วัสดุที่ใช้ผลิต ดีไซน์ และยี่ห้อ
สำหรับไดร์เป่าผม Xiaomi รุ่นที่มีราคาหลักร้อยนั้น มักมีกำลังไฟต่ำ ฟังก์ชันเสริมไม่มาก วัสดุที่ใช้ผลิตอาจไม่ทนทานมากนัก แต่ก็สามารถใช้งานได้ทั่วไป สำหรับไดร์เป่าผมXiaomi รุ่นที่มีราคาหลักพันนั้น มักมีกำลังไฟสูง ฟังก์ชันเสริมหลากหลาย วัสดุที่ใช้ผลิตมีความทนทานมากขึ้น แต่ราคาก็ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น การเลือกไดร์เป่าผมให้เหมาะสมกับงบประมาณนั้น แนะนำให้พิจารณาจากความต้องการและการใช้งานของตนเองเป็นหลัก หากต้องการไดร์เป่าผมที่ใช้งานได้ทั่วไป ราคาหลักร้อยก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าต้องการไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูง ฟังก์ชันเสริมหลากหลาย และวัสดุที่ใช้ผลิตมีความทนทาน ราคาหลักพันก็ตอบโจทย์มากกว่า
นอกจากนี้ ยังสามารถเปรียบเทียบราคาจากร้านค้าต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อหาราคาที่ถูกที่สุดได้อีกด้วย
การเลือกซื้อไดร์เป่าผมxiaomi ควรพิจารณาจากความต้องการและงบประมาณของตนเอง เพื่อให้ได้ไดร์เป่าผมที่ตรงกับความต้องการและคุ้มค่ากับราคามากที่สุด
ไดร์เป่าผมคืออะไร ?
ไดร์เป่าผม เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่เป่าลมร้อนเพื่อทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น ไดร์เป่าผมมีมานานหลายศตวรรษแล้ว โดยต้นแบบของไดร์เป่าผมถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 19 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันชื่อ เฮนรี วอร์เรน คอฟฟี (Henry Warren Coffey)
ไดร์เป่าผม ประกอบด้วยส่วนประกอบหลักๆ ดังนี้
- มอเตอร์ ทำหน้าที่สร้างแรงหมุนของแกนลม
- แกนลม ทำหน้าที่หมุนใบพัดให้เกิดลม
- ใบพัด ทำหน้าที่หมุนให้เกิดลม
- ปากเป่า ทำหน้าที่ส่งลมไปยังเส้นผม
ไดร์เป่าผมมีให้เลือกหลายแบบหลายขนาด แต่ละแบบจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เช่น กำลังไฟ ความแรงของลม อุณหภูมิของลม ฟังก์ชันเสริมต่างๆ เป็นต้น
ไดร์เป่าผมมีกี่ประเภท ?
ไดร์เป่าผมในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ แตกต่างกันไปตามกำลังไฟ ความแรงลม อุณหภูมิลม และฟังก์ชันการใช้งาน ไดร์เป่าผมที่นิยมใช้กันทั่วไปมี 2 ประเภทหลักๆ คือ
- ไดร์เป่าผมแบบธรรมดา : ไดร์เป่าผมประเภทนี้จะมีกำลังไฟไม่สูงมากนัก ประมาณ 1,000-1,500 วัตต์ เหมาะสำหรับใช้เป่าผมให้แห้งธรรมดาๆ
- ไดร์เป่าผมแบบมืออาชีพ : ไดร์เป่าผมประเภทนี้จะมีกำลังไฟสูง ประมาณ 1,800-2,500 วัตต์ เหมาะสำหรับใช้เป่าผมให้แห้งเร็วและจัดแต่งทรงผม
ไดร์เป่าผมมีประโยชน์อย่างไร ?
ไดร์เป่าผมมีประโยชน์มากมาย เช่น
- ช่วยทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น เหมาะสำหรับคนที่รีบเร่งหรือมีผมหนา
- ช่วยจัดแต่งทรงผมให้สวยได้หลากหลาย
- ช่วยบำรุงผมให้เงางาม นุ่มสลวย
อย่างไรก็ตาม การใช้ไดร์เป่าผมมากเกินไปอาจทำให้ผมแห้งเสียได้ จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง โดยควรเป่าผมด้วยความร้อนระดับต่ำหรือระดับปานกลาง และไม่ควรเป่าผมนานเกินไป
ไดร์เป่าผม มีวิธีดูแลรักษาอย่างไร ?
ไดร์เป่าผมเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความสำคัญต่อการดูแลเส้นผมของเรา การใช้ไดร์เป่าผมอย่างถูกวิธีและดูแลรักษาอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของไดร์เป่าผมและปกป้องเส้นผมของเราจากความร้อนที่มากเกินไปได้
- ทำความสะอาดไดร์เป่าผมเป็นประจำ ฝุ่นผงหรือคราบต่าง ๆ ที่เกาะติดไดร์เป่าผมอาจทำให้ไดร์เป่าผมทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและอาจทำให้เกิดปัญหากับไดร์เป่าผมได้ ควรทำความสะอาดไดร์เป่าผมเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดบริเวณตัวเครื่องและบริเวณพัดลม
- เก็บรักษาไดร์เป่าผมให้ถูกวิธี เมื่อใช้ไดร์เป่าผมเสร็จแล้วควรพักให้ไดร์เป่าผมหายร้อนก่อนแล้วจึงเก็บรักษา ไม่ควรเก็บไดร์เป่าผมไว้ในที่ที่มีความชื้นหรือน้ำขัง เพราะอาจทำให้ไดร์เป่าผมเสียหายได้ ควรเก็บไดร์เป่าผมไว้ในที่แห้งและปลอดภัย ปราศจากฝุ่น
- ใช้ไดร์เป่าผมอย่างเหมาะสม ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมติดต่อกันนานเกินไปโดยไม่พัก ควรมีการปิดเครื่องพักเป็นระยะ ๆ เพื่อช่วยผ่อนแรงของมอเตอร์ เป็นการยืดอายุการใช้งานของไดร์เป่าผม
- หลีกเลี่ยงการใช้ไดร์เป่าผมใกล้น้ำ ไดร์เป่าผมเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมใกล้น้ำ เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตได้
ข้อควรระวังในการใช้ไดร์เป่าผม
- ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมเป่าผมใกล้ใบหน้ามากเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้
- ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมเป่าผมเป็นเวลานานเกินไป เพราะอาจทำให้ผมแห้งเสียได้
- ควรใช้ไดร์เป่าผมที่มีคุณภาพดีและได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย