5 อันดับ เครื่องดูดฝุ่น Xiaomi รุ่นไหนดี ? 2023
เครื่องดูดฝุ่น Xiaomi ในปัจจุบันนั้น มีให้เลือกใช้งานกันหลากหลายรุ่น โดยแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน โดยเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi ที่น่าสนใจและน่าซื้อมาใช้งานในปี 2023 จะมีรุ่นไหนดีบ้างนั้น ติดตามไปพร้อมกับ Xiaomi Thailand ได้เลย รวมไว้ให้คุณพ่อบ้านแม่บ้าน 5 อันดับด้วยกัน ไม่ต้องรอนาน ติดตามรีวิวได้เลย
1. Xiaomi Mi Vacuum Cleaner Mini
Xiaomi Mi Vacuum Cleaner Mini โดยรวมแล้วถือว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กพกพาที่มีประสิทธิภาพการทำงานอยู่ในระดับสูง ที่สามารถทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยแรงดูดสูงสุดถึง 13,000 Pa และความเร็วในการหมุนถึง 88,000 รอบต่อนาที ทำให้สามารถขจัดฝุ่นละอองและแบคทีเรียได้อย่างหมดจด อีกทั้งยังมีน้ำหนักโดยรวมที่ไม่มากจนเกินไป จึงทำให้สามารถจับถือได้อย่างสะดวก และจัดเก็บได้อย่างไม่เปลืองพื้นที่มากจนเกินไป เหมาะสำหรับการใช้ทำความสะอาดบนรถยนต์และพื้นที่ขนาดเล็กอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
ข้อดีของ Xiaomi Mi Vacuum Cleaner Mini
- แรงดูดสูงถึง 13,000 Pa ที่สามารถขจัดฝุ่นละอองและแบคทีเรียได้อย่างหมดจด
- น้ำหนักเบาเพียง 1.24 กิโลกรัม ช่วยให้จับถือได้อย่างสะดวก
- แบตเตอรี่ความจุ 2,200 mAh สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 25 นาที
- หัวแปรงปรับเปลี่ยนได้ 3 แบบ เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายพื้นผิว
- เสียงรบกวนต่ำเพียง 70 เดซิเบล
ข้อเสียของ Xiaomi Mi Vacuum Cleaner Mini
- ถังเก็บฝุ่นความจุ 0.4 ลิตร อาจต้องเทบ่อยหากใช้งานในพื้นที่ที่มีฝุ่นมาก
- ไม่สามารถถอดล้างถังเก็บฝุ่นได้ ต้องเททิ้งเท่านั้น
Xiaomi Mi Vacuum Cleaner Mini เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กพกพาที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง เหมาะสำหรับการใช้งานทำความสะอาดบนเฟอร์นิเจอร์และพื้นที่ขนาดเล็กอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
2. Xiaomi Deerma CM800
Xiaomi Deerma CM800 เป็นรุ่นที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวในลักษณะของผ้า โดยจุดเด่นที่สำคัญ ได้แก่
- พลังดูดที่สูงถึง 13,000 PA สามารถดูดฝุ่นและไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีหลอด UV-C อุณหภูมิสูงถึง 50 องศา ช่วยฆ่าไรฝุ่นและแบคทีเรีย
- แผ่นกรอง HEPA แบบสองชั้น สามารถกรองฝุ่นอนุภาคละเอียดได้ดี
- น้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม ใช้งานสะดวก
- รูปทรงกะทัดรัด พกพาง่าย
ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ฝุ่นหรือต้องการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ให้สะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้งานได้กับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายประเภท เช่น โซฟา ผ้าม่าน เตียงนอน หมอน ผ้าห่ม เป็นต้น
นอกจากนี้ Xiaomi Deerma CM800 ยังมีราคาที่ย่อมเยา เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือนทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันมีจำหน่ายในราคาประมาณ 999 บาท
3. Xiaomi Deerma Vacuum Cleaner VC20 Plus
Xiaomi Deerma Vacuum Cleaner VC20 Plus เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานในระดับมาตรฐานของชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของรุ่นนี้ ได้แก่
- แรงดูดสูงถึง 8,000Pa ที่สามารถดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แบตเตอรี่ความจุ 2,200mAh สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 35 นาที
- ถังเก็บฝุ่นความจุ 0.6 ลิตร ที่สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
- ดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่หลากหลาย ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหัวแปรงสำหรับดูดพื้น หัวแปรงสำหรับดูดโซฟา หัวแปรงสำหรับดูดเบาะ เป็นต้น
Xiaomi Deerma Vacuum Cleaner VC20 Plus เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการใช้งานทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานได้สะดวก และมีราคาไม่แพงครับ
4. Xiaomi Vacuum Cleaner G11
Xiaomi Vacuum Cleaner G11 เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายแบบถือด้วยมือที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบถ้วน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย และพกพาสะดวก
ข้อดีของ Xiaomi Vacuum Cleaner G11
- น้ำหนักเบาและบาง ถือใช้งานง่าย
- แรงดูดที่ทรงพลัง ดูดฝุ่นได้สะอาดหมดจด
- มีให้เลือกถึง 3 โหมด ปรับแรงดูดได้ตามต้องการ
- ทำความสะอาดง่าย
- มีหน้าจอ LCD แสดงข้อมูลการใช้งาน
- หัวแปรงดีไซน์พิเศษ ทำความสะอาดได้หลากหลายพื้นผิว
ข้อเสียของ Xiaomi Vacuum Cleaner G11
- ระยะเวลาการใช้งานต่อครั้งค่อนข้างสั้น ประมาณ 30 นาที
- หัวแปรงหลักอาจติดผมหรือขนสัตว์ได้ง่าย
โดยรวมแล้ว Xiaomi Vacuum Cleaner G11 เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายแบบถือด้วยมือที่มีคุณภาพดี คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย และพกพาสะดวก
5. Xiaomi Shunzao Z11 MAX
Xiaomi Shunzao Z11 MAX มาพร้อมกับมอเตอร์แบบ Brushless Motor ที่ให้แรงดูดสูงสุดถึง 20,000 Pa ซึ่งสามารถดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงระบบการกรองสิ่งสกปรกแบบ 5 ขั้นตอนที่ช่วยให้ฝุ่นละอองไม่ฟุ้งกระจายกลับคืนสู่อากาศ
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น ให้มาขนาด 3000 mAh ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 60 นาที จากการทดสอบพบว่า การใช้งานในโหมดแรงดูดปกติ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 45 นาที ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป
นอกจากนี้ Xiaomi Shunzao Z11 MAX ยังมาพร้อมกับหัวแปรงหลักแบบ Cyclone Brush ที่มีใบมีดตัดด้ายในตัว ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เส้นผมพันกันกับหัวแปรง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหัวแปรงแบบต่างๆ ที่สามารถใช้งานได้กับพื้นผิวที่แตกต่างกัน เช่น หัวแปรงแบบนุ่มสำหรับดูดฝุ่นบนเฟอร์นิเจอร์ หัวแปรงแบบแข็งสำหรับดูดฝุ่นบนพรม เป็นต้น
โดยรวมแล้ว Xiaomi Shunzao Z11 MAX เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีแรงดูดสูงและมีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรก อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่ที่หมดไวในโหมดแรงดูดสูงสุดอาจเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ
วิธีเลือกเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi รุ่นไหนดี ?
1. พลังในการดูด
พลังดูดเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในการทำความสะอาดฝุ่นและไรฝุ่น โดยเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi มีระดับพลังดูดที่หลากหลาย ตั้งแต่ 100AW ไปจนถึง 150AW ซึ่งระดับพลังดูดที่สูงขึ้นจะช่วยให้สามารถดูดฝุ่นและไรฝุ่นได้หมดจดยิ่งขึ้น
สำหรับระดับพลังดูดของเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi นั้น แบ่งออกเป็นดังนี้
- 100AW เป็นระดับพลังดูดที่เพียงพอสำหรับการทำความสะอาดฝุ่นทั่วไป เช่น ฝุ่นละออง เศษผม เศษอาหาร
- 120AW เป็นระดับพลังดูดที่สูงขึ้น ช่วยในการทำความสะอาดฝุ่นและไรฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น
- 150AW เป็นระดับพลังดูดที่แรงที่สุด เหมาะสำหรับการทำความสะอาดฝุ่นที่หนาแน่น เช่น ฝุ่นจากขนสัตว์ ฝุ่นจากไรฝุ่น
ในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi นั้น ควรพิจารณาระดับพลังดูดที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งาน โดยหากมีบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวาง หรือมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีระดับพลังดูดที่สูง เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ความจุถังเก็บฝุ่น
ความจุถังเก็บฝุ่นเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi โดยถังเก็บฝุ่นขนาดใหญ่จะช่วยให้สามารถใช้งานได้นานโดยไม่ต้องหยุดพักในการเทฝุ่นออก
ความจุถังเก็บฝุ่นของเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi นั้น แบ่งออกเป็นดังนี้
- 0.5 ลิตร เป็นขนาดความจุถังเก็บฝุ่นที่เล็กที่สุด เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด
- 0.6 ลิตร เป็นขนาดความจุถังเก็บฝุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
- 1.0 ลิตร เป็นขนาดความจุถังเก็บฝุ่นที่ใหญ่ที่สุด เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่กว้างขวาง
ในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi ควรพิจารณาความจุถังเก็บฝุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งาน โดยหากมีบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวาง หรือมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีถังเก็บฝุ่นขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้นานโดยไม่ต้องหยุดพัก
3. ประเภทหัวแปรง
ฟังก์ชันการใช้งานเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด เนื่องจากฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติมต่างๆ จะช่วยให้กล้องวงจรปิดสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ควaประเภทหัวแปรงก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi โดยหัวแปรงแต่ละประเภทจะออกแบบมาเพื่อใช้งานกับพื้นผิวที่แตกต่างกัน
สำหรับหัวแปรงของเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi นั้น แบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้
- หัวแปรงหลัก เป็นหัวแปรงที่ใช้ดูดฝุ่นทั่วไป เหมาะสำหรับการใช้งานกับพื้นแข็ง เช่น พื้นไม้ พื้นกระเบื้อง
- หัวแปรงม็อบ เป็นหัวแปรงที่ใช้ในการถูพื้น เหมาะสำหรับการใช้งานกับพื้นแข็ง เช่น พื้นไม้ พื้นกระเบื้อง
- หัวแปรงดูดไรฝุ่น เป็นหัวแปรงที่ใช้ในการดูดไรฝุ่น เหมาะสำหรับการใช้งานกับพื้นพรม โซฟา
- หัวแปรงเล็ก เป็นหัวแปรงที่ใช้ในการดูดฝุ่นในที่แคบ เช่น ใต้เตียง ใต้ตู้
ในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi ควรพิจารณาประเภทหัวแปรงที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งาน โดยหากมีบ้านที่มีพื้นผิวหลากหลาย ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวแปรงหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สามารถใช้งานได้กับพื้นผิวที่แตกต่างกันตามความต้องการใช้งานมากขึ้น
สำหรับกล้องวงจรปิด Xiaomi มีฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติมให้เลือกหลายอย่าง เช่น
- ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว ช่วยให้สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของวัตถุหรือบุคคลได้ และส่งการแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟน
- ระบบแจ้งเตือน ช่วยให้สามารถแจ้งเตือนเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ เช่น ตรวจจับการเคลื่อนไหว ตรวจจับเสียงรบกวน เป็นต้น
- ระบบบันทึกภาพ ช่วยให้สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้
- ระบบการพูดคุยแบบสองทาง ช่วยให้สามารถพูดคุยกับคนที่อยู่ด้านหน้ากล้องได้
- ระบบ AI ช่วยให้สามารถตรวจจับวัตถุหรือบุคคลได้แม่นยำยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดบางรุ่นยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่นๆ ได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้สามารถควบคุมกล้องวงจรปิดได้จากระยะไกลหรือทำงานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่นๆ ได้
ดังนั้น การเลือกซื้อกล้องวงจรปิดจึงควรพิจารณาฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติมต่างๆ ควบคู่ไปกับปัจจัยอื่นๆ เช่น ความละเอียดของภาพ มุมมองภาพ และราคา เพื่อให้ได้กล้องวงจรปิดที่ตอบโจทย์การใช้งานและได้รับทุกความคุ้มค่า
4. ระบบกรองอากาศ
ระบบกรองอากาศก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi โดยระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้สามารถดักจับฝุ่นและไรฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจายกลับสู่อากาศ
สำหรับระบบกรองอากาศของเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi นั้น แบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้
- ระบบกรอง HEPA เป็นระบบกรองที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถดักจับฝุ่นและไรฝุ่นได้ละเอียดถึง 0.3 ไมครอน
- ระบบกรอง HEPA 13 เป็นระบบกรองที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถดักจับฝุ่นและไรฝุ่นได้ละเอียดถึง 0.1 ไมครอน
ในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi ควรพิจารณาระบบกรองอากาศที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งาน โดยหากมีบ้านที่มีคนเป็นภูมิแพ้ หรือมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้สามารถดักจับฝุ่นและไรฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจายกลับสู่อากาศ
5. ระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ
ระบบทำความสะอาดอัตโนมัติเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi โดยระบบทำความสะอาดอัตโนมัติจะช่วยให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายและสะดวกขึ้น
สำหรับระบบทำความสะอาดอัตโนมัติของเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi นั้น แบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้
- ระบบการวางแผนเส้นทาง ระบบการวางแผนเส้นทางจะช่วยให้เครื่องดูดฝุ่นสามารถทำความสะอาดพื้นที่ได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
- ระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง ระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางจะช่วยให้เครื่องดูดฝุ่นสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้อย่างปลอดภัย
- ระบบการจดจำพื้นที่ ระบบการจดจำพื้นที่จะช่วยให้เครื่องดูดฝุ่นสามารถทำความสะอาดพื้นที่ซ้ำได้โดยไม่ต้องกำหนดเส้นทางใหม่
ในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi ควรพิจารณาระบบทำความสะอาดอัตโนมัติที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งาน โดยหากต้องการความสะดวกในการทำความสะอาด ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติครบถ้วน
6. ขนาดพื้นที่ใช้งาน
ขนาดพื้นที่ใช้งานก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi โดยเครื่องดูดฝุ่นแต่ละรุ่นจะมีระยะการทำงานที่จำกัด ดังนั้นควรเลือกรุ่นที่เหมาะกับขนาดพื้นที่ใช้งาน
สำหรับขนาดพื้นที่ใช้งานของเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi นั้น แบ่งออกเป็นดังนี้
- พื้นที่ขนาดเล็ก (ไม่เกิน 100 ตารางเมตร) เหมาะสำหรับห้องนอน ห้องนั่งเล่นขนาดเล็ก
- พื้นที่ขนาดกลาง (100-200 ตารางเมตร) เหมาะสำหรับบ้านที่มี 2-3 ห้องนอน
- พื้นที่ขนาดใหญ่ (มากกว่า 200 ตารางเมตร) เหมาะสำหรับบ้านที่มี 4 ห้องนอนขึ้นไป
ในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi ควรพิจารณาขนาดพื้นที่ใช้งานที่เหมาะสมกับบ้าน โดยหากมีบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวาง ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีระยะการทำงานที่ยาวนาน เพื่อให้สามารถทำความสะอาดพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง
นอกจากขนาดพื้นที่ใช้งานแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi อีกด้วย เช่น ระดับพลังดูด ความจุถังเก็บฝุ่น ประเภทหัวแปรง และระบบกรองอากาศ เป็นต้น
ประเภทเครื่องดูดฝุ่น Xiaomi
เครื่องดูดฝุ่น Xiaomi แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น บ้านพักอาศัยที่มีพื้นที่กว้าง ออฟฟิศ โรงงาน เป็นต้น มีข้อดีคือพลังดูดแรง ทำความสะอาดได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่มีข้อเสียคือต้องเสียบปลั๊กตลอดเวลาขณะใช้งาน
- เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สาย เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด เช่น อพาร์ทเมนท์ คอนโดมิเนียม เป็นต้น มีข้อดีคือใช้งานสะดวก เคลื่อนย้ายได้ง่าย เหมาะกับการทำความสะอาดแบบเร่งด่วน แต่มีข้อเสียคือพลังดูดไม่แรงเท่าเครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เหมาะสำหรับการใช้งานอัตโนมัติ เหมาะกับคนที่ต้องการทำความสะอาดบ้านแบบไม่ต้องเหนื่อย มีข้อดีคือใช้งานสะดวก ทำความสะอาดได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ แต่มีข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง
- เครื่องดูดฝุ่นพร้อมฟังก์ชันถูพื้น เหมาะสำหรับการทำความสะอาดแบบ 2 in 1 ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้นในครั้งเดียว มีข้อดีคือใช้งานสะดวก ประหยัดเวลา แต่มีข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง
ข้อดีของการใช้เครื่องดูดฝุ่น Xiaomi
- พลังดูดแรง ทำความสะอาดฝุ่นและไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ดีไซน์มินิมอลทันสมัย เข้ากับทุกการตกแต่งภายใน
- ใช้วัสดุคุณภาพดี มีความแข็งแรงทนทาน
- ใช้งานง่าย ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
- ราคาย่อมเยา เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ
